Studio Ghibli สตูดิโอที่ผลิตการ์ตูนคุณภาพให้ได้ดู

Studio Ghibli (สตูดิโอจิบลิ) เป็นสตูดิโอภาพยนตร์อนิเมะของประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2528 โดย ฮายาโอะ มิยาซากิ, อิซาโอะ ทาคาฮาตะ และ โทชิโอะ ซูซูกิ ตั้งอยู่ที่เมืองโคะงะเนะอิ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ชื่อ จิบิ มาจากชื่อเครื่องบินตรวจการณ์ของกองทัพอิตาลีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 คำว่า Ghibli มาจากภาษาลิเบีย แปลว่า “ลมร้อนที่พัดผ่านทะเลทรายซาฮารา”

การ์ตูนอนิเมชั่นญี่ปุ่น ของ ghibli studio เต็มไปด้วยจินตนาการ เข้าถึงอารมณ์ และได้รับความนิยมไปทั่วโลก ภาพยนตร์บางเรื่องของสตูดิโอจิบลิ เช่น โทโทโร่เพื่อนรัก, ลาพิวต้า พลิกตำนานเหนือเวหา, มิติวิญญาณมหัศจรรย์ และ เจ้าหญิงจิตวิญญาณแห่งพงไพร ได้รับการยกย่องให้เป็นภาพยนตร์คลาสสิก

การ์ตูนจิบิ มักสะท้อนให้เห็นถึงประเด็นทางสังคมและสิ่งแวดล้อม เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ การต่อสู้เพื่อสันติภาพ และวิกฤตสิ่งแวดล้อม ภาพยนตร์เหล่านี้จึงได้รับความนิยมจากผู้คนทุกวัยและทุกเชื้อชาติ
ดูการ์ตูนอนิเมชั่น ของ studio ghibli ได้ผลิตภาพยนตร์ อนิเมะทั้งหมด มาแล้วกว่า 20 เรื่อง ซึ่งได้รับรางวัลมากมายทั้งในประเทศญี่ปุ่นและต่างประเทศ ภาพยนตร์ของสตูดิโอจิบลิได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักสร้างภาพยนตร์แอนิเมะรุ่นใหม่ทั่วโลก

แนะนำอนิเมะค่าย จิบลิ น่าดูที่ไม่ควรพลาด

1.โปเนียว ธิดาสมุทรผจญภัย (2008)

Studio Ghibli

ปอนโยะ หรือชื่อไทยว่า โปเนียว ธิดาสมุทรผจญภัย เรื่องย่อ ที่เมืองเล็กๆ ริมทะเล เด็กน้อยวัย 5 ขวบ โซะสุเกะ อาศัยอยู่ในบ้านบนหน้าผาสูงติดทะเลอินแลนด์ เช้าวันหนึ่ง ระหว่างที่เล่นเพลินอยู่บนหาดหินใต้หน้าผา เขาพบปลาทองหน้าเหมือนคน ติดอยู่ในโหลแยมเก่าๆ โซสุเกะ จึงช่วยชีวิตและเลี้ยงเธอไว้ในถังน้ำพลาสติกสีเขียว เขาให้ชื่อมันว่า ‘โปเนียว’ โปเนียวชอบโซสุเกะ โซสุเกะก็รู้สึกกับโปเนียวไม่ต่างกัน เด็กน้อยบอกกับว่า “ไม่ต้องกลัวนะ ฉันจะปกป้องดูแลเธอเอง” แต่แล้วฟุจิโมะโตะพ่อของโปเนียว ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นมนุษย์ แต่ตอนนี้กลายเป็นเจ้าสมุทรมีชีวิตอยู่ใต้ทะเลลึก ก็บังคับลูกสาวตัวน้อยๆ ให้กลับสู่ท้องทะเล
“หนูอยากเป็นมนุษย์ค่ะ!” เธอบอกกับพ่อ ก่อนจะหนีออกมา กลายร่างเป็นเด็กสาว และกลับมาหาโซสุเกะ แต่ระหว่างทาง เธอทำน้ำแห่งชีวิตซึ่งเป็นของเหลวศักดิ์สิทธิ์ของพ่อหลุดรั่วไปในท้องทะเลจนหมดขวด เป็นเหตุให้น้ำทะเลยกตัวขึ้นสูงเกิดสึนามิ น้ำทะเลล้นเข้าท่วมจนเมืองเล็กๆ จมอยู่ใต้น้ำ โปเนียว คือปลาอะไร ตอนนี้เราคงได้รู้กันแล้วว่าเธอคือ ปลาทอง นั้นเอง

2.โทโทโร่เพื่อนรัก (1988)

Studio Ghibli

totoro หรือชื่อไทยว่า โทโทโร่เพื่อนรัก เรื่องเริ่มต้นที่เด็กผู้หญิงสองคน ซะสึกิ และ เม ย้ายมาอยู่บ้านใหม่ในแถบชนบทกับพ่อ เพื่อที่จะให้ใกล้กับโรงพยาบาลที่แม่ของพวกเธอนอนรักษาตัวอยู่ ซะสึกิและเมได้ค้นพบว่า ในป่าข้างบ้านมี โทโทโร่ สัตว์วิเศษผู้พิทักษ์ป่าอาศัยอยู่ และต่อมาได้กลายเป็นเพื่อนกัน และเรื่องราวมหัศจรรย์สนุก ๆ ก็ได้เกิดขึ้นมากมาย totoro คือตัวอะไร เป็นวิญญาณแห่งป่าที่ฮายาโอะจินตนาการขึ้น มีลักษณะคล้ายแมวผสมกระต่าย

3.ป๊อปปี้ ฮิลล์ ร่ำร้องขอปาฏิหาริย์ (2011)

Studio Ghibli

ในห้วงเวลาที่ญี่ปุ่นเร่งพัฒนาโตเกียวเพื่อรับมหกรรมโอลิมปิกฤดูร้อน 1964 “มะสึซากิ อูมิ” เด็กสาววัย 16 ปี ผู้สูญเสียบิดาไปในสงครามเกาหลี อาศัยอยู่ในบ้านโคะกุริโกะ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองท่าโยะโกะฮะมะ เพื่อระลึกถึงบิดา ทุกเช้าเธอจะชักธงสัญญาณแบบเดียวกันขึ้นที่บ้านของเธอ

ที่โรงเรียนมัธยมปลาย ในขณะที่อูมิกำลังรับประทานอาหารเที่ยงกับเพื่อน เหล่านักเรียนชายส่วนหนึ่ง ได้ทำการรณรงค์ต่อต้านการรื้อถอนอาคารชมรม “ละติน ควอเตอร์” ซึ่งเป็นอาคารเก่าแก่สถาปัตยกรรมแบบตะวันตก โดยมีนักเรียนชายคนหนึ่ง แสดงออกด้วยการกระโดดจากหลังคาของอาคารเรียนลงไปในบ่อน้ำในบริเวณที่อูมิและเพื่อนๆนั่งอยู่ เมื่อเห็นดังนั้นอูมิจึงเข้าไปช่วยให้เขาขึ้นมาจากบ่อน้ำ แต่ด้วยสายตาของบรรดานักเรียนต่างจับจ้อง เธอจึงละทิ้งการช่วยเหลือ

จากวีรกรรมของนักเรียนชายคนนั้น ทำให้เป็นข่าวไปทั่วทั้งโรงเรียน เขาคนนั้นชื่อว่า “คาซามะ ชุน” เป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ของโรงเรียน ด้วยการที่น้องสาวของอูมิอยากได้ลายเซ็นของชุน จึงขอร้องให้อูมิช่วยไปละติน ควอเตอร์กับเธอเป็นเพื่อน อูมิไม่อาจปฏิเสธได้ ทั้งสองจึงไปที่ละติน ควอเตอร์ โดยพบว่าภายในละติน ควอเตอร์นั้น มีสภาพที่รกระเกะระกะมาก ผู้คนในละติน ควอเตอร์ทั้งหมดล้วนเป็นผู้ชาย โดยในแต่ละชั้นจากทั้งหมดสามชั้นจะประกอบไปด้วยชมรมต่างๆมากมาย อาทิ ชมรมดาราศาสตร์, ชมรมเคมี, ชมรมวรรณกรรม เป็นต้น โดยนักเรียนที่นี่มีความสนใจและทุ่มเทกับงานในชมรมของตนมาก อูมิได้พบกับชุน และ “มิซูนูมะ ชิโร” ประธานสภานักเรียน หลังจากได้ลายเซ็นแล้ว ชิโรและน้องของอูมิก็ออกไปข้างนอก ชุนได้ขอร้องให้อูมิช่วยคัดลอกบทความแทนเขา โดยอ้างว่ามือขวาของเขาได้รับบาดเจ็บจากแมว นับแต่นั้นมา ความสนิทสนมระหว่างพวกเขาทั้งสองคนก็เพิ่มมากขึ้น

ต่อมา โรงเรียนได้เปิดสภานักเรียนให้นักเรียนร่วมอภิปรายเรื่องการรื้อถอนละติน ควอเตอร์ และสร้างอาคารชมรมใหม่แทน โดยนักเรียนส่วนใหญ่ก็มีความคิดเห็นด้วย ที่จะให้มีการรื้อถอนอาคาร ชุนเป็นผู้นำกลุ่มนักเรียนส่วนน้อยในการคัดค้าน เหตุการณ์เริ่มชุลมุนขึ้น แต่ชิโร ประธานนักเรียนได้ให้สัญญาณว่าครูใหญ่กำลังมา ทั้งหมดที่กำลังชุลมุนจึงกลายเป็นสามัคคีกัน และจบด้วยการณ์นั้น

เนื่องจากอูมิอยากช่วยชุนในการพิทักษ์ละติน ควอเตอร์ จึงออกความคิดเห็นว่าควรทำความสะอาด และบูรณะละติน ควอเตอร์เสียใหม่ ต่อมา อูมิได้ชักชวนเพื่อนๆ มาร่วมกันทำความสะอาดและบูรณะละติน ควอเตอร์ ร่วมกับนักเรียนชายในละติน ควอเตอร์ ในช่วงเวลานั้นเอง ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนก็เป็นไปอย่างราบรื่น จนกระทั่งชุนและชิโรได้รับเชิญไปปาร์ตี้ที่บ้านของอูมิ จึงทำให้รู้ว่า อูมินั้น ที่แท้จริงแล้วเป็นน้องสาวของตนเอง ด้วยการนั้น ชุนจึงจำเป็นต้องลืมความรู้สึกในอดีตทั้งหมด และพยายามออกห่างอูมิ

4.ลาพิวต้า พลิกตำนานเหนือเวหา (1986)

Studio Ghibli

มีตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาว่า ในอดีต มนุษย์มีวิทยาการและอารยธรรมสูงส่งถึงขนาดสร้างอาณาจักรลอยฟ้าขึ้นมาได้ นามของอาณาจักรนั้นคือ “ลาพิวต้า” ที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรปกครองผืนแผ่นดินทั้งมวล แต่ด้วยสาเหตุบางประการ ทำให้อาณาจักรนั้น ได้ล่มสลายลง แต่ก็มีความเชื่อว่าลาพิวต้า ยังคงลอยอยู่ที่ใดที่หนึ่ง บนโลกใบนี้

ในคืนหนึ่ง กลุ่มสลัดอากาศ “โดล่า” ได้เข้าโจมตีเรือเหาะโดยสาร ซึ่งในเรือเหาะนั้นมีเด็กสาวนามว่า ชีต้า ที่กำลังถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐบาล เป้าหมายของโจรสลัดคือ ศิลาลอยฟ้า ของชีต้า ชีต้าที่พยายามจะหนี ได้พลักตกลงจากเรือเหาะพร้อมกับสร้อยศิลาเส้นนั้น

ปาซู เด็กกำพร้าที่ทำงานอยู่ในเหมืองแร่ ได้เห็นแสงบางอย่างกำลังต่ำลงมาจากท้องฟ้าอย่างช้าๆ เมื่อเขาเข้าไปสังเกตใกล้ๆ พบว่าเป็นร่างของหญิงสาวที่บนคอมีสร้อยกำลังเปล่งแสง เขาได้ช่วยเหลือเธอที่กำลังหมดสติไว้และพากลับไปบ้านของตนเอง เมื่อฟื้น เธอก็แนะนำตัว และกลายเป็นเพื่อนกับเขา ในบ้านของปาสึ ชีต้าเหลือบไปเห็นภาพๆหนึ่งที่เขียนว่า “ลาพิวต้า” เขาเล่าให้ฟังว่า ระหว่างที่พ่อเค้าออกบิน เค้าเจอกับลาพิวต้า จึงถ่ายภาพๆนี้ไว้ แต่ไม่มีใครเชื่อ ระหว่างนั้นเอง แก็งโดล่าก็ออกตามหาชีต้า จนมาถึงบ้านปาสึได้พาชีต้าหนีแก็งโดล่า จนมาพบกับรถถังของกองทัพ ปาสึได้ขอความช่วยเหลือ แต่แล้วคนของกองทัพกลับพยายามจับตัวชีต้า ปาสึได้พาชีต้าหนีลงมาในเหมืองแร่เก่า และหลงทางอยู่ในนั้น จนได้พบกับชายชรานามว่า ปอม ลุงปอมกล่าวว่า เขาได้ยินเสียงก้อนหินคุยกัน จึงลงมาดูด้านล่าง ทั้งสองไม่เข้าใจ ลุงปอมจึงดับตะเกียง และหินรอบๆก็เปล่งแสงขึ้นมา ลุงปอมอธิบายว่า หินเหล่านี้มีส่วนประกอบของแร่เอธิเรียม ซึ่งใช้ในการทำศิลาลอยฟ้าของชาวลาพิวตา เมื่อชีต้าได้ยินดังนั้นจึงหยิบสร้อยของตนเองออกมาดู และพบว่ามันกำลังเปล่งแสง เมื่อลุงปอมเห็นดังนั้นก็ตกใจ และกล่าวว่า นี่คือศิลาลอยฟ้าของลาพิวต้า และ ก็จบด้วยการที่ลาพิวต้า พังและยังคงอยู่อีกส่วนบนทัองฟ้า

5.แม่มดน้อยกิกิ (1989)

Studio Ghibli

เรื่องราวของสาวน้อยแม่มด “กิกิ” ที่เมื่อถึงวัย 13 ขวบ เธอต้องออกเดินทางไปกับจิจิแมวของเขาและไม้กวาดเพื่อค้นหาตัวเอง ในเมืองที่ไม่มีแม่มดอื่นมาอยู่ ในที่สุด เมืองที่เธออยากไปอยู่ก็มาอยู่ตรงหน้า เมืองใหญ่โตริมทะเลที่เธอฝันไว้ ความที่เป็นเมืองใหญ่ มีผู้คนอาศัยอยู่มาก เธอจำเป็นต้องปรับตัวและหาวิถีที่จะอยู่ในเมืองใหญ่เมืองนี้ให้ได้

ในที่สุด เธอก็ได้ไปอยู่กับครอบครัวทำขนมปัง แล้วเธอก็ใช้ความสามารถในการขี่ไม้กวาดให้เป็นประโยชน์ คอยรับจ้างส่งของให้กับคนในเมือง

กิกิได้เจอกับเพื่อนใหม่มากมาย ต่างวัย ต่างอายุ แต่ก็เป็นคนที่คอยให้กำลังใจเธอยามที่เธอสูญเสียเวทมนตร์

ข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มเติม : อนิเมะต่างโลก

ขอบคุณข้อมูลจาก : Wiki